แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1 – 1 เรดดิ้ง

ทีมเรดดิ้งของสตีฟ ค็อปเปลล์ สร้างเซอร์ไพรส์ให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยการบุกไปเสมอที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด 1 – 1 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาในศึกเอฟเอ คัพรอบที่ 5 ทำให้ทั้งสองทีมต้องไปเตะนักรีเพลย์กันในบ้านของเรดดิ้ง
โดยแมนฯ ยูไนเต็ด ได้ประตูก่อนจากลูกยิงสุดสวยของไมเคิล คาร์ริค ในนาทีสุดท้ายของครึ่งแรก แต่ในครึ่งหลังไบร์นยาร์ กุนนาร์สสัน ก็โหม่งให้ทีมเยือนตีเสมอได้ โดยกุนนาร์สสัน ลงเล่นให้ทีมนัดล่าสุดเมื่อวันปีใหม่ และเขาก็ทำประตูได้ในนัดที่ทีมเอาชนะเวสต์ แฮม ไปได้ 6 – 0
ในนัดนี้เซอร์ อเล็กซ์ ส่งโซลชาร์ ลงมาเล่นเป็นตัวจริงและรับหน้าที่กัปตันทีม ส่วนแบ๊คซ้ายและขวาเฟอร์กี้ส่งไฮน์เซ่ และบราวน์ และให้วิดิช ยืนคู่กับซิลแวสตร์ ในตำแหน่งปราการหลังตัวกลาง
ทางด้านสตีฟ ค็อปเปลล์ ก็มีการเปลี่ยนแปลงตัวผู้เล่นมากเช่นกัน และส่งทีมชุดที่อ่อนกว่าลงเล่น
เริ่มเกมทั้งสองทีมเปิดเกมรุกใส่กันตั้งแต่ต้น และถือว่าในนัดนี้เรดดิ้ง สร้างผลงานได้ยอดเยี่ยม และบุกทีมเจ้าบ้านได้อย่างต่อเนื่อง แต่แนวรับของทีมปีศาจแดงก็ทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยม
ช่วงครึ่งแรกพาร์ค มีโอกาสทำประตูหลายต่อหลายครั้งแต่ก็ยังไม่สามารถปิดสกอร์ได้ และคาร์ริค ก็โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมในนัดนี้ และเขาก็มีโอกาสเปิดบอลเข้ากลาง แต่ก็ถูกอังเดร ไบคี่ย์ สกัดไว้ได้ บอลกระดอนไปติดโอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ และได้ยิงแต่เฟเดริชี่ ก็ป้องกันไว้ได้
แมนฯ ยูไนเต็ดน่าจะได้ประตูแรกในนาทีที่ 34 จากลูกยิงของโซลชาร์ แต่กลับถูกตัดสินว่าเป็นลูกล้ำหน้า แม้ว่าเมื่อดูจากภาพรีเพลย์แล้วเห็นได้ชัดว่าศูนย์หน้าชาวนอร์เวย์ผู้นี้ยังอยู่ในไลน์
แต่อย่างไรก็ตามในนาทีสุดท้ายของครึ่งแรกแมนฯ ยูไนเต็ด ก็ได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะสับหลอกของโรนัลโด้ แล้วเปิดบอลต่อให้คาร์ริค ได้ยิงเต็มข้อบอลพุ่งเข้าสามเหลี่ยมไปอย่างสวยงาม หมดครึ่งแรกแมนฯ ยูไนเต็ด นำอยู่ 1 – 0
เริ่มครึ่งหลังแมนฯ ยูไนเต็ด ยังคงบุกอย่างต่อเนื่องและต้องการประตูที่ 2 แต่ก็ไม่สามารถทำได้ ในนาทีที่ 60 พาร์คได้เปิดบอลงามๆ ให้โรนัลโด้ แต่ปีกทีมชาติโปรตุเกสก็ยิงบอลเฉี่ยวเสาออกไป
แต่แล้วในนาทีที่ 67 เรดดิ้ง ก็สามารถตามตีเสมอได้ เมื่อพวกเขาได้ลูกเตะมุม และออสเตอร์ เปิดบอลเข้าหัวกุนนาร์สสัน ได้โหม่งเข้าประตูไปอย่างที่คุสซ์แซค หมดสิทธิ์ป้องกัน
หลังจากถูกตีเสมอเซอร์ อเล็กซ์ ก็เปลี่ยนตัวนักเตะเพื่อแก้เกมทันทีถึง 3 คน โดยส่งเอฟร่า ลงเล่นแทนไฮน์เซ่ ส่งสโคลส์ ลงแทนพาร์ค และส่งลาร์สสัน ลงเล่นแทนโซลชาร์
ในช่วงท้ายเกมทั้งสองทีมพลัดกันบุกอย่างสนุกสนาน แต่ก็ยังทำอะไรกันไม่ได้เพิ่ม โดยทั้งคุสซ์แซค และเฟเดริชี่ ต่างก็ได้ป้องกันลูกอันตราย และช่วยทีมไม่ให้เสียประตูเพิ่มไว้ได้ จบเกมทั้งสองทีมเสมอกันไป 1 – 1 ต้องไปเตะนัดรีเพลย์กันที่บ้านของเรดดิ้ง (บรรยายเกมโดย โอปอล)
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
โทมัสซ์ คุสซ์แซค 29
เวส บราวน์ 6
เนมานย่า วิดิช 15 ( น. 78)
มิเกล ซิลแวสตร์ 27
กาเบรียล ไฮน์เซ่ 4
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ 7
ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ 24
ไมเคิล คาร์ริค 16 ( น. 47)
พาร์ค จีซุง 13
หลุยส์ ซาฮา 9
โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ 20
สำรอง
ทอม ฮีตั้น 38
ปาทริซ เอฟร่า 3 น. 73 กาเบรียล ไฮน์เซ่ 4
จอห์น โอเชีย 22
พอล สโคลส์ 18 น. 73 พาร์ค จีซุง 13
เฮนริก ลาร์สสัน 17 น. 73 โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ 20
เรดดิ้ง
อดัม เฟเดริชี่ 32
อูลิเซส เดอ ลา ครูซ 23
อังเดร ไบคี่ย์ 22 ( น. 75)
อิวาร์ อินกิมาร์สสัน 16
นิคกี้ โชเรย์ 3
โซล กี ยอน 19 ( น. 61)
จอห์น ออสเตอร์ 11
ไบร์นยาร์ กุนนาร์สสัน 6 ( น. 67)
สตีฟ ซิดเวลล์ 4
บ็อบบี้ คอนวี่ย์ 17
เดฟ คิทสัน 12

สำรอง
มาร์คัส ฮาห์เนมันน์ 1
แซม ซอดเย่ 18 น. 86 จอห์น ออสเตอร์ 11
เกล็น ลิตเติ้ล 7 น. 89 โซล กี ยอน 19
สตีเฟ่น ฮันท์ 10 น. 71 บ็อบบี้ คอนวี่ย์ 17
เลรอย ลิต้า 8
สถิติของเกม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ประตู 1, ยิงตรงกรอบ 7, ยิงหลุดกรอบ 8, โดนบล็อค 7, เตะมุม 8, ฟาวล์ 8, ล้ำหน้า 5, ใบเหลือง 1, การครองบอล 51%
เรดดิ้ง ประตู 1, ยิงตรงกรอบ 3, ยิงหลุดกรอบ 3, โดนบล็อค 1, เตะมุม 5, ฟาวล์ 17, ล้ำหน้า 4, ใบเหลือง 2
คะแนนความสามารถ
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โทมัสซ์ คุสซ์แซค 5, เวส บราวน์ 5, เนมานย่า วิดิช 5, มิเกล ซิลแวสตร์ 6, กาเบรียล ไฮน์เซ่ 6, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ 6, ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ 6, ไมเคิล คาร์ริค 8, พาร์ค จีซุง 7, หลุยส์ ซาฮา 5, โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ 5, ปาทริซ เอฟร่า (สำรอง) 6, พอล สโคลส์ (สำรอง) 6, เฮนริก ลาร์สสัน (สำรอง) 6
เรดดิ้ง อดัม เฟเดริชี่ 9, อูลิเซส เดอ ลา ครูซ 5, อังเดร ไบคี่ย์ 7, อิวาร์ อินกิมาร์สสัน 6, นิคกี้ โชเรย์ 6, โซล กี ยอน 7, จอห์น ออสเตอร์ 7, ไบร์นยาร์ กุนนาร์สสัน 8, สตีฟ ซิดเวลล์ 6, บ็อบบี้ คอนวี่ย์ 6, เดฟ คิทสัน 6, แซม ซอดเย่ (สำรอง) 6, เกล็น ลิตเติ้ล (สำรอง) 6, สตีเฟ่น ฮันท์ (สำรอง) 6
Por

Related Posts

Jax